เกาะบาตั้ม (ฺBatam Island)

  • เกาะบาตั้ม (ฺBatam Island) ____ครั้งแรกที่มาเกาะบาตั้มและเป็นครั้งที่สองที่เดินทางมาอินโดนีเซีย

ภาพประกอบจากกลูเกิล

     การเดินทางครั้งนี้เกิดเมื่อช่วงวันที่  09-13 กรกฏาคม  2009 (2552)   ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นที่เข้ามาทำงานในแวดวงน้ำมันและแก๊สที่ประเทศสิงคโปร์ได้แค่เพียงปีเศษ (1ปีกับอีก 1 เดือน)
     ทริปนี้เป็นเพียงทริปสั้นๆแค่ห้าวัน ซึ่งทางออฟฟิศได้มอบหมายให้มาช่วยวิศวกรชาวฝรั่งเศษทำการอัพเกรดระบบเครนที่ใช้ยกของบนเรือ

      เนื่องจากเป็นทริปสั้นๆดังนั้นเวลาส่วนใหญ่ก็จะอยู่กับงานและห้องพักที่โรงแรมและไม่ได้ออกไปไหนไกล  ดังนั้นบันทึกนี้จึงขอรีวิวเฉพาะเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับการเดินทางและเรื่องงานให้ฟังก็แล้วกันว่ามีอะไรบ้าง



  •     การเดินทาง
         เกาะบาตั้มเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ห่างจากเกาะสิงคโปร์ไม่ไกลหรือประมาณ 30 กว่ากิโลฯ .... การเดินทางก็เป็นไปได้วิธีเดียวคือไปทางเรือเฟอรี่ (ferry)  
         ที่สิงคโปร์จะมีท่าเรือที่จะข้ามไปเกาะบาตัมสองแห่งด้วยกันคือที่ Tanah Merah Ferry Terminal (ทานา เมร่า เฟอร์รี่ เทอร์มินอล) และที่ ้harbour front ferry terminal (ฮาร์เบอร์ ฟร้อนท์ เฟอร์รี่ เทอร์มินอล)  ส่วนทริปนี้เป้าหมายอยู่ที่ท่าเรือซิกุปัง (sekupung) และออกเดินทางจากท่าฮาร์เบอร์ฟร้อน 

แผนที่ท่าเรือต่างๆบริเวณเกาะบาตั้ม

Batam Fast เรื่อเฟอร์รี่ที่วิ่งให้บริการระหว่างเกาะสิงคโปร์กับเกาะบาตั้ม ค่าโดยสารไป-กลับ 48 SGD หรือประมาณ 980 บาท

      เมื่อเดินทางไปถึง sekupang ferry terminal  ก็จะต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของอินโดนีเซีย  ซึ่งปกติคนไทยไม่ต้องใช้วีซ่าและสามารถอยู่ได้สามสิบวันในฐานะนักท่องเที่ยว  แต่ถ้าเป็นการเดินทางไปทำงานเจ้าหน้าทีจะไม่แสดมป์ให้และจะไปกรอกแบบฟอร์มทีวีซ่าแบบ Visa On Arrival

     ทุกครั้งที่เดินทางไปก็จะแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่ามาประชุมกับลูกค้าซึ่งจะใช้เวลาแค่สองสามวัน   ซึ่งเจ้าหน้าที่บางคนก็เชื่อ ส่วนบางคนก็ไม่เชื่อและไล่ให้ไปทำวีซ่า เนื่องจากมีการนำกระเป๋าเครื่องมือไปด้วย

     หลังจากผ่านเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไป ก็จะมีพนักงานขับรถมารับและพาไปส่งโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ซึ่งห่างจากท่าเรือประมาณ 12 กิโลฯ และใช้เวลาเดินทาง 20 นาที 

    
holiday inn resort batam ภาพประกอบจากกลูเกิล
บริเวณล๊อบบี้ของโรงแรง ฮิลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท
ห้องนั่งเล่นและห้องนอนเตียงคู่

ห้องน้ำ
  ***ค่าที่พักต่อคืน 350,000 รูเปียร์  หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 900 กว่า รวมอาหารมื้อเช้า


   ส่วนกิจวัตรประจำวันก็คล้ายๆกันทุกวัน นั้นคือทานมื้อเช้าเสร็จก็เดินทางไปทำงานที่อู่ต่อเรือ DryDocks world  ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักไปประมาณ 10 กิโลฯและใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที



  •  ภาพทั่วๆไปบริเวณอู่ต่อเรือ
เรือลำที่จะต้องไปอัพเกรดระบบควบคุมเครน 

เซลฟี่ กับสภาพแวดล้อมรอบเรือที่ขึ้นไปเซอร์วิช
เทคโนโลยีที่ใช้ควบคุมเครน  ซึ่งเป็นระบบควบคุมที่เก่าสุดๆ (Slip Ring Starter )

เรือขนาดใหญ่ที่เข้ามารับการเซอร์วิซ

ใบพัดเรือ

ใบพัดเรือและหางเสือ

มอเตอร์

โรเตอร์

เรือที่ได้รับการเซอร์วิซเรียบร้อย และอยู่ในขั้นตอนกำลังจะปล่อยลงน้ำ


     ทริปนี้เป็นการเดินทางมาเพื่อทำงานจริงๆ  ไม่มีโอกาสไปปลีกวิเวกที่ไหนเลยนอกเสียจากร้านนวดตัวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรมที่อยู่ไกล้ๆ  .... แต่อย่างไรก็ตามก็ได้เก็บภาพบางส่วนที่น่าสนใจนำมาฝากกัน หวังว่าเพื่อนๆคงชอบ

     




***  อย่าลืมกดไลน์เพื่อติดตามเรื่องเล่าตอนต่อๆไปนะครับ

No comments:

Post a Comment