Cocktail with a human toe

เหล้าสูตรแคนาดาแช่นิ้วเท้ามนุษย์

 เมื่อ 29 ส.ค.56  ซีบีซีนิวส์รายงานวิถีชาวบ้านแสนพิสดารในมืองดอว์สันซิตี รัฐยูคุน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแคนาดา ปรุงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แช่ หัวแม่เท้ามนุษย์ ในชื่อ ซาวเออร์โท ซึ่งมีมานานกว่า 40 ปีจนไม่ใช่เรื่องแปลกในท้องถิ่น

 นายเทอร์รี ลี หรือ กัปตันหัวแม่เท้า บาร์เทนเดอร์อาวุโสในโรงแรมดาวน์ทาวน์ เปิดเผยว่าเครื่องดื่มนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2516 โดยกัปตันดิ๊ก สตีเวนสัน นำหัวแม่เท้าดองเกลือที่เก็บไว้ในขวดโหลหย่อนลงไปในเหล้า



 ผู้ดื่มจะต้องกระดกแก้วให้ปลายหัวแม่เท้าแตะริมฝีปากเป็นอันเสร็จสิ้นการดื่มตามประเพณี จากนั้นจะได้รับประกาศนียบัตรเป็นสมาชิกซาวเออร์โท ค็อกเทล คลับ มีสมาชิกมากกว่า 100,000 คน

 นายลียังกล่าวว่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีทหารชาวอเมริกัน ทราบชื่อเพียงจอช จากนิวออร์ลีนส์ เดินทางมาที่โรงแรมและสั่งเมนูดังกล่าว แต่แทนที่จะดื่มเหมือนคนทั่วไป นายจอชกลับกลืนหัวแม่เท้าลงคอ ก่อนจะจากไปโดยจ่ายค่าเหล้าสูงถึง 14,500 บาทตามค่าปรับของการฝ่าฝืนกลืนนิ้วเท้า ดังนั้น ชมรมจึงต้องเพิ่มค่าปรับเป็น 72,000 บาทเพื่อป้องกันลูกค้าลองของแบบนี้อีก










In Dawson City more than 65,000 have consumed a cocktail with a human toe in it.

Dawson City, Yukon Territory

 This is one event that you'll never forget. Dawson does indeed have a famous drink called the Sour Toe Cocktail, which contains an actual alcohol-preserved human toe.

No kidding. Head to the Sourdough Saloon at the Downtown Hotel and you can watch this strange ritual, or for $5 you can try the cocktail yourself and earn a certificate.


This started in 1973 with what is said to be the toe of a miner, which had been amputated in the 1920's. To participate and earn the official certificate, the rule is 'You can drink it fast, you can drink it slow—But the lips have gotta touch the toe.

More info. =>  www.sourtoecocktailclub.com.



Where: Historic Dawson City was the heart of the Klondike Gold Rush. The town ( pop today about 1,800) is a National Historic Site. Visitors can pan for gold, visit the cabins of Robert Service & Jack London, gamble at Diamond Tooth Gerties, take a First Nation's river tour, and enjoy life under the midnight sun.

No comments:

Post a Comment