Tiger Walker (ทางเสือผ่าน): First time in the Brunei

บรูไน จิ๋วแต่แจ๋ว

ระยะเวลาประมาณ 30 สิบกว่าชั่วโมงในบรูไน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สั้นๆ แต่ว่าก็เป็นความประทับใจที่ยาวนาน

ทริปนี้เดินทางโดยสายการบิน รอยัล บรูไน แอร์ไลน์ .... โดยบินออกจากสิงคโปร์เวลา 12.05 น. และบินไปถึงสนามบินนานาชาติบรูไนประมาณ 14.15 ซึ่งใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 10 นาทีโดยประมาณ

บรูไนเป็นประเทศมุสลิม ... จอมอนิเตอร์บนเครื่องบินจะมีการแสดงทิศที่ตั้งของนครเมกกะ สลับกับรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางของเครื่องบิน

***มักกะฮ์หรือ เมกกะ เป็นพระนครชุมทิศของโลกอิสลาม เป็นสถานที่ตั้งของกะอฺบะฮฺ

หลังจากเดินทางถึงสนามบินนานาชาติของบรูไนแล้ว เป้าหมายถัดไปก็คือเดินทางไปที่เมืองซีเรีย (Seria) ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ไกล้ๆกับชายแดนประเทศมาเลเซีย และเป็นแหล่งน้ำมันที่สำคัญของประเทศบรูไน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียวเลยที่เดียว

*** Seria Field is the largest oil field in northwest Borneo, discovered in 1929. The oil is accumulated in Upper Miocene sandstone, trapped in Seria Anticline that straddles the present day coastline. This field has produced more than 1 billion barrels of oil for more than 75 years. Brunei Shell Petroleum (BSP) is the operator of this field.

เมืองซีเรียนี้ถือว่าเป็นเมืองพิเศษที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่พักของพนักงานหรือคนงานที่ทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำมันโดยเฉพาะ

ใช้เวลาเดินทางจากสนามบิน มาเมืองซีเรีย ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยประมาณ

วัตถุประสงค์ในการเดินทาง ก็เพื่อมาแก้ปัญหาให้ลูกค้าซึ่งตั้งแท่นทำการขุดเจาะน้ำมันอยู่บริเวณแหล่งน้ำมันซีเรียแห่งนี้

เดินทางมาถึงประมาณบ่ายสี่โมงเย็น และใช้เวลาแก้ปัญหาให้ลูกค้าอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง จ่ากนั้นก็เดินทางต่อไปยังโรงแรมที่พักในเมืองซีเรีย ตามที่ลูกค้าจัดได้เตรียมไว้ให้

Land Rig หรือ แท่นบก (รูปเอียง ต้องอภัย เนื่องจากในบล๊อกนี้ไม่มีฟังก์ชั่นสำหรับกลับทิศทางรูปภาพ )

บรูไนเป็นประเทศมุสลิมที่ค่อนข้างเคร่งในหลักศาสนา ที่นี่ไม่มีเหล้าเบียร์และแสงสีและผับบาร์เหมือนบ้านเราหรือบางประเทศ นอกจากนั้นการสูบบุหรีตามที่สาธารณะยังถือว่าผิดกฏหมายอีกด้วย ดังนั้นทากเลือกที่ดีที่สุดของที่นี่คือกอดหมอนดูทีวีแล้วก็หลับฝันรอเวลาตื่นขึ้นไปทำงานในเช้าวันใหม่... 555

*** เมื่อพูดถึงการสูบบุหรีผมเองก็เกือบพลาด.....เพราะหลังจากหม่ำมื้อเย็นเรียบร้อยก็เดินออกมาสูบบุหรีด้านอกอาคารของโรงแรมเนื่องจากไม่ทราบกฏเรื่องการสูบบุหรี ..แต่โชคดีที่มีคนอื่นมาสะกิดเตือนก่อนที่ตำรวจจะมาเห็น ... มิฉนั้นอาจจะต้องเสียเงินค่าปรับเป็นเงินหลักหมื่นเลยที่เดียว เชียว....

หนึ่งคืนผ่านไป....หลับสนิทไม่มีฝัน... ตื่นเช้ามาก็เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมและเดินทางไปพบลูกค้าที่หน้างานอีกรอบเพื่อแนะนำวิธีในการแก้ปัญหาให้กับผู้ดูแลระบบควบคุมประจำแท่น จากนั้นก็ เชคแฮนด์ แอนด์ เซย์ กู๊ดบาย และเดินทางกลับไปยังสนามบิน....

เวลาพอมีเหลือ...ระหว่างเดินทางกลับจึงได้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชม มัสยิดจาเมร์ ฮัซซานัล โบลเกียห์ (Jame Asr Hassanil Bolkiah Mosque) ซึ่งเป็นมัสยิดแห่งชาติของบรูไนที่ใหญ่และมีสถาปัตยกรรมสวยงามที่สุดในบรูไน สร้างขึ้นในโอกาสฉลอง 25 ปี แห่งการครองราชย์ของสุลต่านองค์ปัจจุบัน

*** ในบรูไนมัสยิดที่นักท่องเที่ยวชมมักนิยมไปเยี่ยมชม จะประกอบไปด้วยสองแห่งด้วยกันคือ มัสยิดโอมา อาลี ไซฟุดดิน (Omar Ali Saiffuddien Mosque) ซึ่งเป็นมัสยิดประจำพระองค์ของสมเด็จพระมหาราชาธิบดีองค์ที่ 28 ของบรูไนและมัสยิดจาเมร์ ฮัซซานัล โบลเกียห์ (Jame Asr Hassanil Bolkiah Mosque) ซึ่งเป็นมัสยิดแห่งชาติของบรูไนที่ใหญ่และมีสถาปัตยกรรมสวยงามที่สุดในบรูไน ที่สร้างขึ้นในโอกาสฉลอง 25 ปี แห่งการครองราชย์ของสุลต่านองค์ปัจจุบัน

หลังเสร็จการเยี่ยมชมมัสยิดเรียบร้อย ก็เดินทางต่อไปยังสนามบิน(ใช้เวลาประมาณสิบกว่านาที ) เพื่อเดินทางกลับฐานสิงคโปร์ด้วยสายการบินรอยัล บรูไน แอร์ไลน์ เหมือนกับตอนขามา ...

ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาที่สั้นๆ แต่ก็ทำให้เข้าใจนิยามประเทศบรูไนที่ว่า " จิ๋วแต่แจ๋ว " เป็นอย่างดี เพราะตลอดเส้นทางที่เดินทางผ่านนั้น จะพบว่าบรูไนเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้ ปลอดจากมลภาวะ บ้านเมืองมีมาตรฐานการครองชีพที่ดี มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและมีการพัฒนา สงบสุข สันติสุข ไม่วุ่นวายไม่รีบเร่ง .... หลังจากได้มาเยือนและได้เห็นแล้ว ต้องขอบอกว่า เป็นช่วงเวลาทีสั้นๆแต่ประทับใจยาวนานครับ !!

*** บรูไนมีพื้นที่ ประมาณ 5,765 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณสี่แสนสามหมื่นคน