เยี่ยมชมไออิจิเอ๊กซโป 2005 (AICHI EXPO 2005 (พ.ศ. 2548) )
บทความนี้ผมได้เขียนลงไว้ใน 9engineer.com ซึ่งเป็นเว็บหลักไว้ตั้งแต่ July 20 ,2005 เมื่อครั้งที่เพิ่งเดินกลับจากฮิโรซิมาใหม่ๆ แต่เข้าใจว่ายังมีเพื่อนๆสมาชิกอีกหลายท่านยังไม่ได้อ่าน ก็เลยถือโอกาสเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่
ทริปนี้เกิดขึ้นก่อนเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งตามโปรแกรมแล้วจะต้องนั่งรถไฟเดินทางจากฮิโรชิม่า มาพักที่โตเกียวก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่ช่วงนั้นที่ญี่ปุ่นกำลังมีงาน เวิลด์ เอ็กซ์โปที่เมือง AICHI Prefecture อยู่พอดี ผมจึงขอแยกวงกับเพื่อนๆชาวบังคลาเทศที่ไปอบรมด้วยกันและเดินทางออกนอกเส้นทางตามที่กำหนดเพื่อเดินทางไปแวะเยี่ยมชมงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองนาโกย่า (Nagoya) ก่อนที่จะเดินทางไปโตเกียว
12 ก.ค . 2005 หลังเสร็จภาระกิจการฝึกอบรมกับบริษัท Mitsubishi Heavy Industrial เช้าตรู่ของวันที่ 13 ก.ค. ก็ออกเดินทางจากฮิโรชิม่าด้วยรถไฟความเร็วสูง shinkansen (ZONOMI Superexpress ) มุ่งหน้าสู่นาโกย่าด้วยระยะทาง 528.2 km และใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงกับอีก 23 นาที ก็มาถึงเมืองนาโกย่า
การเดินทางไป AICHI EXPO 2005
การเดินทางไปที่่ AICHI 2005 EXPO ก็ถือว่าไม่ลำบากเลย เพียงแต่ขอให้มาเริ่มต้นที่สถานีรถไฟที่เมืองนาโกย่าให้ถูกเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นที่สถานีก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยชูบ้ายบอกเส้นทางสำหรับการเดินทางในลำดับถัดไป ซึ่งสามารถให้ข้อมูลภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี ... หลังจากนั้นก็เดินทางด้วยรถไฟ AICHI EXPO loop Line อีกประมาณ 38 นาที และต่อด้วยรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ซึ่งใช้หลักการลิเนียร์มอเตอร์เป็นตัวขับเคลื่อนอีก 5 นาที ก็จะเดินทางถึงบริเวณหน้างาน
รถไฟฟ้าทีใช้หลักการลิเนียร์มอเตอร์ (Linimo) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีรถไฟฟ้าที่ใหม่ล่าสุดที่ญี่ปุ่นได้พัฒนาขึ้นมาใช้ในเชิงพานิชย์
ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมงาน Expo เข้าแถวรอ Linimo ซึ่งค่อนข้างหนาแน่นเลยที่เดียว
บัตรเข้าชมงานราคา 4,600 เยน
ผมเตรียมตัวตื่นนอนตั้งแต่ก่อนไก่โห่ (ตีห้าที่ญี่ปุ่นหรือเท่ากับตีสามที่เมืองไทย) เพื่อจะให้ทันรถไฟเที่ยวแรกที่ออกจากฮิโรชิม่าเวลา 6.00 น.
โดยตั้งใจจะมาถึงก่อนใครเพื่อที่จะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้อย่างเต็มที่...แต่อนิจาพอมาถึงหน้างานซึ่งเป็นเวลาประมาณ 10 น. ก็ต้องตกใจ..
ไอ้ที่เราว่าเช้าของเราแล้วกลับไม่จริงอย่างที่คิด...พอเดินมาถึงหน้างานก็ต้องพบกับผู้คนมากมายที่เข้าแถวรอคิวซื้อตั๋วเข้าชมงานเป็นที่่รียบร้อยแล้ว
ตอนขากลับผมได้กระซิบถามเจ้าหน้าที่ว่าวันนี้ยอดคนเข้าชมประมาณเท่าไหร่...เจ้าหน้าที่ตอบว่าวันนี้ทั้งวันก็ประมาณเกือบๆ 10 ล้านคน.... ก็ไม่รู้แน่ใจว่าดังที่เจ้าหน้าที่บอกหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆวันนี้คนเยอะจริงๆขอบอก
*** อัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้น 100 เยนเท่ากับ 34 บาท ... ตั๋วใบนี้ราคาก็ประมาณพันกว่าบาท ครับท่าน
ภาพซึ่งถ่ายบนสถานี่รถไฟฟ้าเมื่อเดินทางมาถึง ปรากฏมีผู้คนเข้าแถวรอเข้าชมงานจำนวนมากตั้งแต่เช้า
ลักษณะโดยทั่วไปของ AICHI EXPO 2005
เนื่องจากเคยมีโอกาสได้ไปดูงาน Hanover Fair 2000 ที่เยอรมัน ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก (The worlds biggest exhibition site ) และมีเทคโนโลยีใหม่ๆมาแสดงมากมายจากทั่วทุกมุมโลกและต้องใช้เวลา 2-3 วันเป็นอย่างน้อยในการเยี่ยมชม ซึ่งเป็นงานที่ยิ่งใหญ่สมกับคำเล่าลือที่ว่า "เยอรมันทำอะไรเล็กๆไม่เป็น"
ก่อนไปงานเอ็กซโปครั้งนี้ต้องบอกว่าไม่ได้เตรียมตัวไว้ก่อนล่วงหน้า เพราะเป็นการตัดสินใจหลังจากทราบโปรแกรมการเดินทางของทีมหลังเสร็จสิ้นการอบรม ดังนั้นจึงเป็นการตัดสินใจที่เกิดขึ้นในนาที่สุดท้ายหรือเรียกว่า last minute planning
ก่อนเดินทางไปก็จินตนาการไปว่างานเอ็กซ์โปนี้น่าคล้ายๆกับ Hanover Fair ที่เยอรมัน ก็เลยตั้งใจไว้ว่าจะเข้าไปหาข้อมูลที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆมาฝากเพื่อนๆสมาชิก ... แต่หลังจากผ่านเข้าไปในงานก็ถึงบางอ้อ...เพราะเอ็กซ์โปนี้ไม่ได้เน้นเรื่อเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแต่จะเป็นเอ๊กซโปที่แนะนำเรื่องทั่วๆไปของแต่ละประเทศ เช่น ศิลปะวัฒนะธรรม สถานที่ท่องเที่ยว สินค้าส่งออกและงานหัตกรรมเด่นๆของประเทศนั้นๆเสียมากกว่า..โดยแต่ละประเทศก็จะมีศาลาจัดแสดงหรือเรียกว่า Pavilions เป็นของตนเอง
ศาลาไทยที่ร่วมจัดแสดงในครั้งนี้....เรื่องราวภายในส่วนใหญ่ใช้จอทีวีขนาดใหญ่จัดตกแต่งเป็นประตู+หน้าต่างและสายน้ำเปิดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับศิลปะวัฒนะธรรม... เช่นเริ่มต้นด้วยกล่าวคำทักทาย การต้อนรับ การดำรงชีวิตแบบไทยตามวิถีทางของชาวพุทธ สถานที่ท่องเที่ยว ดนตรี และอื่นๆ รวมถึงสินค้า OTOP และมุมอาหารไทยที่ขึ้นชื่อ การแสดงเกี่ยวกับประเพณี+การเล่นของไทย
ส่วนที่ประเทศที่เอาเทคโนโลยีมาแสดงนั้นเท่าที่เห็นก็จะมีแต่เจ้าภาพเท่านั้นที่ได้นำเทคโนโลยีการผลิตที่มีชื่อเสียงของประเทศนำมาแสดงให้ชมเช่น โตโยต้า มิตซูบิซิ ฟูจิ และอื่นๆ ซึ่งมีอยู่ประปรายและไม่กี่แห่งซึ่งแต่ละที่ก็มีผู้คนเข้าแถวรอเป็นจำนวนมาก 400-500 คนเป็นอย่างน้อยและเปิดแสดงเป็นรอบๆ
เทคโนโลยีที่เด่นและมีสีสันหน่อยในงานนี้ก็คงจะหนี่ไม่พ้นหุ่นยนต์ (Robots) ... และหุ่นยนต์ส่วนใหญ่ที่นำมาแสดงก็จะเป็นหุ่นยนต์ที่ใช้ในงานบริการเช่นหุ่นยนต์ประกาศข่าว หุ่นยนต์เลี้ยงเด็ก หุ่นยนต์ทำความสะอาด รวมถึงหุ่นยนต์ที่กู้ภัยและรักษาความปลอดภัย เป็นต้น
คลิปหุ่นย์VIDEO
จากการประเมินสถานะการณ์แล้วหากยืนเข้าแถวรอคิวกับเขาวันนี้คงเข้าชมได้ไม่กี่แห่งเป็นแน่แท้ .. และเนื่องจากมีเวลาค่อนข้างจำกัดผมมีน้อยจึงตัดสินใจเดินหน้าเดินดูศาลาแสดงกิจกรรมของแต่ละประเทศที่มีคนเข้าคิวน้อยๆหรือบางที่ก็ไม่ต้องเข้าแถวรอคิว...
ดังนั้นตั้งแต่ช่วงเวลา 10.00-17.00 น. ก็เลยสามารถเข้าไปเยี่ยมชมศาลาของประเทศต่างๆได้ประมาณ 40 กว่าประเทศ ซึ่งเป็นการเดินดูศิลปะและวัฒนธรรมรวมถึงดนตรีและการแสดงต่างๆของแต่ละประเทศซึ่งก็เพลินดีเหมือนกัน เรียกว่ามาที่เดียวเที่ยว 40 กว่าประเทศเลย...คุ้มๆๆจริงๆ ..555
ซ้ายมือ : สัญลักษณ์ของงาน ขวามือ : ประชาสัมพันธ์สาวคอยต้อนรับผู้ที่มาเยือนอยู่ที่ศาลาตุรกี
บรรยากาศโซนยุโรป ด้านซ้ายคืออิตาลี ส่วนด้านขวาคือศาลาแสดงกิจกรรมของเยอรมัน
บริเวณหน้าศาลาแสดงกิจกรรมของอิตาลี
นักดนตรีสาวของจีน กำลังบรรเลงเพลงจีนด้วยเครื่องดนตรีจีนให้ฟัง (จุดนี้ชอบ นังฟังอยู่หลายเพลง)
ศาลาจัดกิจกรรมของไทย ซึ่งอยู่ติดกับอินโดนีเซีย เพื่อนบ้านในอาเซี่ยน
เนปาล เป็นเมืองพุทธ กิจกรรมที่นำมาแสดงส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับพุทธศาสนา
คาซัคสถาน
กระโจมของชาวมองโกเลีย
อียิปต์
ประเทศในแอฟริกา (จำไม่ได้)
งานแกะสลัก หน้ากากไม้แถบแอฟริกา
ประเทศแถบอาหรับ (จำไม่ได้ว่าประเทศอะไร)
แผนที่ภายในงาน
หมายเหตุ : นายแบบหน้าตาไม่ดี ต้องขออภัย หวังว่าคงไม่ว่ากันนะครับ
หลังเสร็จการเยี่ยมชมงานนี้ ผมก็เดินทางมาขึ้นรถไฟที่เมืองนาโกย่า จากนั้นก็เดินทางไปสมทบกับเพื่อนร่วมทีมที่โตเกียวและมีเวลาเยี่ยมชมโตเกียวอยู่อีกหนึ่วันกว่า ๆ ซึ่งจะได้นำมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสต่อไป
ต้องการกำลังใจและแฟนเพจบนเฟซบุ๊กอย่าลืมกด LIKE ที่นี่นะครับ=> https://www.facebook.com/realtigerwalker
----------------------------------------------------------------------------
Expo 2005 was the World's Fair held for 185 days between Friday, March 25 and Sunday, September 25, 2005, in Aichi Prefecture, Japan, east of the city of Nagoya. It was a Specialized International Exhibition under the scheme of the 1972 protocol of the Convention relating to International Exhibitions. Japan has also hosted Expo'70 Osaka (Universal International Exhibition), Expo '75 Okinawa (Special International Exhibition), Expo'85 Tsukuba (Specialized International Exhibition), and Expo'90 Osaka (Horticultural International Exhibition).
No comments:
Post a Comment