Penglai, China

•  เส้นทางสู่ประเทศจีน
         ประเทศจีนที่มีเรื่องราวต่างให้น่าติดตามหลากหลายเรื่อง อีกทั้งยังเป็นแผ่นดินแม่ของคุณย่าอีกด้วย (ตอนเด็กๆพ่อเล่าให้ฟังว่าย่ามาจากเมืองจีน)  ดังนั้นจีนคืออีกเป้าหมายหนึ่งที่ตั้งใจไว้ว่าจะต้องไปเยื่อนสักครั้งเป็นอย่างน้อย

      ใครที่เคยอ่านเรื่องราวที่ผ่านๆมา ก็คงเข้าใจว่าโดยสถานะคนต้นทุนต่ำแบบเสือน้อยหากต้องใช้ทุนตัวเองในการเดิน ทางแล้วละก็คงมีโอกาสเป็นไปได้ยากถึงยากที่สุดที่จะสานฝันให้เป็นจริง ....และสิ่งเดียวที่จะพอเป็นไปได้ก็คือต้องอาศัยการทำงานไปเที่ยวไปตามที่ ได้เคยบอกเล่าไว้ก่อนหน้านี้
          ทริปนี้ก็เช่นกันเสือน้อยได้รับมอบหมายจากทางออฟฟิศให้ไปช่วยงานทีม I & C (Install & Commissioning ) ของบริษัทที่ทำเกี่ยวกับระบบเครน อยู่ที่พอร์ทแห่งหนึ่งที่เมืองเผิงไหล...และเมื่อมีโอกาสได้มาตามที่ฝันแล้วก็เลยนำรีวิวเรื่องราวการเดินทางมาฝากกัน

• การเดินทาง
  
      เริ่มออกเดินทางจากสนามบินที่สิงคโปร์เวลา 00.10 น. (เนืองจากทำงานประจำอยู่สิงคโปร์) และมาถึงท่าอากายานนานาชาติอินช็อน (Incheon) เวลา 07.20 น. ตามเวลาท้องถิ่นโดยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์

อาหารที่เสิร์ฟบนสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์

ภาพมุมสูงเหนือประเทศเกาหลี ก่อนเครื่องจะลงสู่ภาคพี้นดิน

สภาพโดยรอบสนามบินอินชอน  ปกคลุมด้วยหิมะ อากาศภายนอก -8 องศา หนาวมาก ภาคพื้นดินเต็มไปด้วยหิมะ

บริเวณรอบๆสนามบิน เต็มไปด้วยหิมะ

บรรยากาศยามเช้าที่สนามบินอินช็อน

ถึงสนามบินอินช็อน

กินอาหารเกาหลีในเกาหลีครั้งแรกในชีวิต (จำชื่อไม่ได้ว่าเขาเรียกว่าอะไร)  เช็ตนี้ก็ประมาณ 12,000 วอน หรือราวๆ 365 บาท (เบิกบริษัทได้)

จากนั้นก็เวลาบินต่อไปที่เมืองเอียนไถ่ (Yantai)  ซึ่งอยู่แนวระนาบเดียวกันกับกรุงโซลของเกาหลีใต้ โดยเที่ยวบินจะออกเดินเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นโดยสายการบิน Shanghai Airline ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

   และเมื่อเดินทางมาถึงก็จะมีคนมาถือป้ายรอรับอยู่ที่สนามบินเอียนไถ่(ทริปนี้มีเพื่อนร่วมเดินทางมาด้วยกันอีกสองคน)

   จากนั้นก็เดินทางต่อโดยรถยนต์ที่บริษัทส่งมารับ เพื่อเดินทางต่อไปยังออฟฟิศ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางต่ออีกหนึ่งชั่วโมง

กองทัพเดินด้วยท้อง...มาจีนครั้งแรกและมาถึงได้ไม่ถึงชั่วโมง นอกจากนั้นยังเป็นช่วงที่หนาวผุดๆด้วย    ผู้คนก็เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ร้านรวงต่างๆก็ปิด บ้านเมืองดูเงียบเหงาจนขาดสีสรร   ภาษาอังกฤษก็ดูไม่ค่อยจะมีความหมายเนื่องจากผู้คนสื่อสารกันด้วยภาษาจีนร้อยเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์  ดังนั้นเมื่อท้องหิวจึงทำให้ไม่ค่อยมีทางเลือกมากนัก ตัวเลือกที่ดีทึ่สุดจึงไปลงเอยที่  KFC 

 หลังจากอิ่มสบายท้องแล้วก็เดินทางต่อไปยังออฟฟิศเพื่อเข้ารับการปฐมนิเทศน์เรื่องความปลอดภัย และเข้าประชุมกับเพื่อนรวมงานที่นั้นเพื่อวางแผนการทำงานในวันรุ่งขึ้น ก่อนเดินทางต่อไปยังที่พักซึ่งเป็นโรงแรมชื่อว่า San Xian Shan Hotel (ซันเซียนซาน โฮเต็ล ) มีความหมายว่า San = สาม , Xian = เซียน(เทพเจ้า) , shan = ภูเขา  ซึ่งก็พักอยู่ที่นี้ตลอดประมาณ 20  คืน  ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมันในช่วงเทศกาลตรุษจีนซึ่งเป็นวันหยุดยาว จากนั้นก็กลับมาอีกครั้งช่วงวันที่ 3 มีนาคม ถึง 1 เมษายน 2016

ภาพรวมของโรงแรมที่พัก

บริเวณหน้าโรงแรม  ทริปแรกที่ไปพักเป็นช่วงที่หนาวสุดๆ บางวันติดลบถึง 13 องศา

บริเวณหน้าโรงแรม  ตอนเช้าพนักงานช่วยกันกวาดหิมะ

บริเวณหน้าโรงแรม   ฝั่งตรงกันข้ามใกล้ๆกันกำลังก่อสร้างสวนสนุกยูโรพาร์ค (Euro Park)

สถานที่ท่องเที่ยวๆที่อยู่ติดๆกับโรงแรมที่พัก  ทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็งเลยทีเดียว

สภาพหน้าไชต์งาน ในวันที่หิมะตกหนักๆ

หลังจากที่เดินทางมาถึงแล้ว วันรุ่งขึ้นก็เข้าสู่โหมดการทำงาน  สำหรับทริปแรกก็ตั้งแต่ 14 มกราคม ถึง  4 กุมภาพันธ์ 2016  และสำหรับทริปที่สองก็เริ่มต้้งแต่ 3 มีนาคม ถึง 1 เมษายน 2016 

นอกเหนือจากเรื่องการเดินทางแล้ว จริงๆแล้วยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกหลายเรื่อง  ซึ่งหากเพื่อนสนใจอยากฟังแล้วละก็ เสือน้อยก็จะนำมาเล่าสู่ฟังในตอนถัดไป  สำหรับรีวิวเรื่องการเดินทางคงขอจบแต่เพียงเท่านี้ก่อน...แล้วพบกันใหม่ในตอนถัดๆไป