บาลิกปาปันทริปที่ประทับใจ ( Balikpapan)
*** บาลิก์ปาปัน (อินโดนีเซีย: Balikpapan) เป็นเมืองท่าบนชายฝั่งตะวันออกของเกาะบอร์เนียวในจังหวัดกาลีมันตันตะวันออก

ต้องบอกว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เดินทางมาบาลิกปาปัน เพราะเมืองนี้เสือน้อยได้มีโอกาสเดินทางมา 3-4 รอบแล้ว โดยครั้งแรกเกิดขึ้นช่วงเดือน พ.ค. 2008 หากจำไม่ผิด ซึ่งตอนนั้นเพิ่งเดินทางเข้ามาที่ทำงานที่สิงคโปร์ได้ประมาณ 20 เดือน และอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่กำลังจะเข้าสู่วงการน้ำมัน ถือได้ว่ายังละอ่อนในวงการน้ำมัน การเดินทางในครั้งนั้นเสือน้อยได้ถูกส่งมาให้เรียนรู้งานกับวิศวกรชาวฟินแลนด์
และหลังจากจบทริปแรกผ่านไปประมาณเกือบสองปี เสือน้อยก็มีโอกาสได้กลับมาที่นี่อีก 2-3 ครั้งในช่วงระยะเวลา 3-4ปีต่อจากนั้น แต่ทว่าทุกๆครั้งที่เดินทางไปส่วนใหญ่ก็จะออกไปเซอร์วิชบนแท่นเจาะน้ำมันที่อยู่กลางทะเล (มีแต่น้ำกับฟ้าเป็นเพื่อน)
ส่วนทริปดูจะดูมีสีสรรและมีชีวิตชีวามากกว่าครั้งก่อนๆ เนื่องจากริกหรือแท่นที่ไปเซอร์วิชในครั้งนี้ได้มาจอดเข้าอู่ทำการซ่อมใหญ่หรือ overhaul อยู่ริมฝั่งแม่น้ำมาหากัม ชาญเมืองซามารินดา ซึ่งก็เลยทำให้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตครึ่งบกครึ่งน้ำได้บ้าง ดังนั้นวันนี้เลยถือโอกาสเก็บเรื่องราวเล็กๆรอบแท่นมาเล่าสู่กันฟัง
ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อ 14 มีนาคม 2014 โดยเริ่มต้นจากสิงคโปร์แล้วบินมาที่บาลิกปาปัน จากนั้นก็ไปพักที่โรงแรมกลางใจเมืองที่ลูกค้าจัดเตรียมไว้ให้หนึ่งคืน
 |
เก็บภาพด้านหน้าโรงแรมไว้เป็นหลักฐาน |
 |
ห้องนอนคนจน |
 |
อาหารมื้อเย็นดูดี แต่ไม่ดีเนื่องจากเนื้อปลาค่อนข้างคาวมากมาย |
พอรุ่งเช้าวันใหม่ก็ออกเดินทางโดยรถยนต์ต่อไปที่เมือง ซามารินด้า (Samarinda) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ระยะทางประมาณ 120 กิโลฯ จากสนามบินไปเมืองซามารินดาซึ่งดูเหมือนไม่ไกล
แต่ถนนที่นี่จะเล็กๆแคบๆและสภาพไม่ค่อยดี ซึ่งกว่าจะไปถึงปลายทางก็ใช้เวลาถึงสามชั่วโมงเศษ ดังนั้นในระหว่างทางเราก็มีแวะชิมไปบ่นไปเล็กๆน้อยๆดังภาพ
 |
จอดแวะร้านขายผลไม้ข้างทาง อุดหนุนแม่ค้าท้องถิ่น |
 |
กำลังชิมทุเรียนท้องถิ่น ซึ่งเนื่อเป็นสีเหลืองส้มส่วนรสชาตินั้นไม่ต้องพูดถึง ไม่หวาน ไม่หอม ไม่มัน เนื้อออกแนวคล้ายๆคาราเมล ... สรุปว่าไม่เป็นสับปะรด (ทุเรียน) |
|
|
|
 |
ส่วนลูกนี้เนื้อขาวซีดเหมือนทุเรียนอ่อนและรสชาติจีดสนิท กินไม่ได้ต้องทิ้งไป |
 |
รถยางรั่วก่อนถึงที่หมายปลายทาง เลยต้องจอดเปลี่ยนยางกัน |
- หลังผ่านไปสามชั่วโมงเศษก็เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งเป็นบริเวณอู่ต่อเรือริมแม่น้ำมาหากัม จากนั้นก็เข้ารายตัวกับผู้บริหารบนแท่นเจาะฯ ตามด้วยเข้าฟังการบรรยายเรื่องความปลอดภัย ตามด้วยการสนทนาเรื่องไทม์เฟรมและแพลนการทำงานกับผู้ที่รับผิดชอบโปรเจ็ค จากนั้นแยกย้ายเข้าห้องพัก อาบน้ำกินข้าว เฝ้าพระอินทร์ตามอัธยาศัย และเข้าสู่โหมดการทำงานในเช้าวันใหม่
 |
My Baby ไอ้เจ้าหนู่น้อยของฉัน....ภาษาวงการน้ำมันเรียกมันว่า top drive หรืออธิบายให้เข้าใจง่ายๆมันก็คือสว่านเจาะน้ำมันนี่เอง |
 |
ยกขึ้นไปบนแท่นเจาะเพื่อทำการติดตั้ง |
หลังจากสองสัปดาห์ผ่านไปก็ได้เฮ.....
หลังจากติดตั้งเสร็จ & ปรับจูนชั่นเรียบร้อย ก็ทำการดทสอบฟังก์ชั่นและทำการ commissioning พร้อมทั้งส่งมอบให้ลูกค้า ส่วนเราก็เตรียมแพ็คกระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้าน
 |
แท่นเจาะที่มองจากศาลาเทียบเรือ |
ดังที่กล่าวไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่าทริปนี้เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นกว่าครั้งก่อนๆที่มาบาลิกปาปัน เนื่องจากแท่นจอดอยู่ริมแม่น้ำ (
แม่น้ำมาหากัม (Mahagum River) ซึ่งสามารถมาสัมผัสชีวิตบนบกได้ยามหลังเลิกงาน
*** แม่น้ำมาหากัม ชื่อฮามาก
ชีวิตยามเย็นไม่เหงา ทุกๆเย็นหลังเลิกงานเราก็มักจะลงจากแท่นมาเที่ยวร้านประจำหมู่บ้าน หรือไม่ก็มารอพบกันที่บริเวณศาลาที่ท่าเทียบเรือที่อยู่ห่างจากแท่นประมาณ 700 เมตร .... นั้งทอดอารมณ์กับเครื่องดื่มเย็นๆ และดูวิถีชีวิตในลำน้ำจนกระทั้งถึงเวลาพระอาทิตย์ตกน้ำ...(
คลิป)
 |
สิ่งที่เห็นบ่อยมากที่สุดก็คือบรรดาเหล่าเรื่อโยงบรรทุกถ่านหิน ซึ่งเป็นถ่านหินจากเหมืองที่อยู่ใกล้ๆ |
นอกจากนั้นทุกสัปดาห์ยังมีตลาดนัดมาลงที่หมู่บ้าน ก็เลยทำให้บรรยากาศของหมู่บ้านเล็กดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
 |
สีสรรของตลาดนัดประจำสัปดาห์ |
 |
ช่วยแม่ค้าทำของขาย |
 |
เด็กๆสนุกกับเครื่องเล่น |
นอกจากนั้นบางครั้งก็แอบไปดูเขาทำคอนโดเลี้ยงนกนางแอ่นเพื่อเก็บรังนก
 |
ระบบกล้องวงจรปิดที่เฝ้าติดตามดูนกสร้างรัง และตัวอย่างรังนก |
 |
หน้าคอนโดนก |
 |
ไข่นกนางแอ่น |
บางวันก็เดินไปไกลหน่อย ไปแอบดูกองภูเขาถ่านหินที่รอเวลาการส่งไปขาย
 |
ภูเขาถ่านหินที่รอการขนไปยังแดนไกล |
และอีกอย่างหนึ่งที่ดูแล้วแปลกตาก็คือ บ้านเรือนที่นิยมทาด้วยสีสดใส..ซึ่งดูมีสีสรรและมีชีวิตชีวาดีไม่น้อย
หลังจากผ่านไปประมาณสองสัปดาห์ ก็เป็นอันว่าทุกอย่างลงตัว และทำการปิดจ๊อบส่งมอบงานให้ลูกค้าพร้อมกับได้ฤกษ์เดินทางกลับ ....
ตอนขามาใช้สนามบินเก่าอยู่ ส่วนขากลับโชคดีได้มีโอกาสได้ใช้สนามบินใหม่ ซึ่งค่อนใหม่ถอดด้ามเลยเพราะเพิ่งเปิดให้บริการได้เพียงไม่กี่วัน
ซึ่งสนามบินใหม่นี้ อะไรๆก็ดูสดใสน่าดูชม เสือน้อยก็เลยถือโอกาสเก็บภาพเล็กๆน้อยๆบริเวณสนามบินมาฝากกัน ซึ่งก็เป็นภาพที่แปลกตาไปอีกแบบเนื่องจากเรื่องราวเกี่ยวกับศิลปะวัฒนธรรมของคนท้องถิ่นที่เรียกตัวเองว่าช
าวเกาะบอร์เนียวหรือชาวกาลิมันตัน
 |
ดูเสื้อผมก็รู้แล้วว่ารู้สึกอย่างไร |
 |
น่าจะเป็นการแต่งกายของหญิงสาวชาวกาลิมันตัน |
 |
การแต่งกายของชายหนุ่ม |
 |
การแต่งกายของหญิงสาว |
 |
การแต่งกายประกอบกานเต้นรำ |
หลังจากเดินสำรวจรอบ ดื่มด่ำกับกาแฟสดรสดีเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการเช็คอินและบินกลับฐานสิงคโปร์ ...
... จบทริป มาหาตังค์ที่ริมแม่น้ำมาหากัม...
Thanks ทุกท่านที่ติดตาม
No comments:
Post a Comment